ชี้แจงความแตกต่างระหว่าง
โครงการยุทธศาสตร์และงานประจำ

โดย ภทรภรต ภภัทร์สทธรรม
Scan สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
1 / 10

ความสัมพันธ์ระหว่างงานยุทธศาสตร์และงานประจำ

งานยุทธศาสตร์ (Strategic Phase) รับเป้าหมาย Goal Setting วิเคราะห์ ความต้องการ Analysis TOR Specification จัดซื้อ Procurement Development พัฒนา Production ใช้งานจริง เข้าสู่ งานประจำ งานประจำ (Operations Cycle) บริหารสัญญา Contract Management ดูแลรักษา Maintenance ปรับปรุง Improvement ต่อสัญญา Contract Renewal วงจรต่อเนื่อง Continuous Cycle
2 / 10

งานยุทธศาสตร์

Strategic Work

ยุทธศาสตร์ (Strategy) – มุ่งสู่เป้าหมายใหม่

เชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย

ขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ พื้นที่ใหม่ / เป้าหมายใหม่

มุ่งแก้ปัญหาระดับโครงสร้าง สร้างความได้เปรียบระยะยาว

ตัวอย่าง:
  • Digital Transformation
  • Data Governance
  • PQC Migration
  • AI Adoption Roadmap
3 / 10

กลยุทธ์

Strategic Initiatives

วิธีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์

โครงการ/แนวทางที่ทำให้ยุทธศาสตร์เกิดผลจริง

มุ่งสร้างผลกระทบระดับองค์กร (Enterprise Impact)

มีลักษณะเป็น Project-based

กำกับด้วย KPI ตามแผนยุทธศาสตร์

ตัวอย่าง:
  • Enterprise Architecture (EA)
  • NIST CSF Cybersecurity Standard
  • Cloud & Data Platform Development
4 / 10

งานปฏิบัติการ

Operations

การรักษาความมั่นคงและประสิทธิภาพ

เมื่อยุทธศาสตร์สำเร็จ → ต้องเปลี่ยนเป็นงานประจำ

เพื่อให้ระบบ/บริการใหม่ คงสภาพ ใช้งานได้ต่อเนื่อง

มุ่งเน้น ประสิทธิภาพ / คุณภาพ / เสถียรภาพ

ตัวอย่าง:
  • ดูแล WAF หลัง Deployment
  • บริหาร Data Lake / AI Platform
  • Security Monitoring & Log Management
  • SAP RISE Operations
  • ISO, EdPex, ITA
5 / 10

หลักคิดสำคัญ

งานยุทธศาสตร์ = การเดินไปยังพื้นที่ใหม่ เป้าหมายใหม่
งานปฏิบัติการ = การดูแลให้พื้นที่ใหม่นั้นยั่งยืน

Strategy

เราจะไปไหน

Initiatives

จะไปถึงได้อย่างไร

Operations

ทำให้พื้นที่นั้นเสถียรและปลอดภัย

6 / 10

การไม่มียุทธศาสตร์ = ความเสี่ยงองค์กร

Strategic Absence = Organizational Risk

องค์กรที่ไม่มีทิศทางยุทธศาสตร์เสี่ยงต่อ:

  • Disruption จากเทคโนโลยีใหม่
  • คู่แข่งใหม่ที่เคลื่อนตัวเร็วกว่า
  • Business Model ใหม่ทำให้สูญเสียความได้เปรียบ
  • ขาดความพร้อมต่ออนาคต (Future-readiness)
ยุทธศาสตร์ คือกลไกให้มหาวิทยาลัย
เดินหน้าและบรรลุเป้าหมายใหม่ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
7 / 10

งานประจำคือฐานความมั่นคง

Operations as Foundation

เป้าหมายของ Operation ที่แท้จริง

✓ เร็วขึ้น (Faster)

✓ ถูกลง (More Cost-efficient)

✓ ผิดพลาดน้อยลง (Stability & Reliability)

✓ ยกระดับมาตรฐานบริการ

ความเสี่ยงถ้าทำแต่งานประจำ:

  • ถูกแทนที่ด้วย Automation / AI / Outsourcing
  • ระบบล้าสมัย ต้นทุนเพิ่ม
  • ขาด Value ใหม่สำหรับองค์กร
Operation = การรักษาให้คงอยู่
แต่ต้องพัฒนา ไม่ใช่ทำซ้ำแบบเดิม
8 / 10

ทำไม "ยุทธศาสตร์" และ "งานประจำ" ต้องไปด้วยกัน?

มิติ
งานยุทธศาสตร์ (Strategy)
งานประจำ (Operations)
เป้าหมาย
สร้างอนาคต / เพิ่มขีดความสามารถ
รักษาความเสถียร / เพิ่มประสิทธิภาพ
ลักษณะ
มองอนาคต / สร้างพื้นที่ใหม่
มองปัจจุบัน / ทำให้ดีขึ้น
ความเสี่ยงถ้าขาด
ล้าหลัง ถูก Disrupt
ไม่มีประสิทธิภาพ / ต้นทุนสูง
ตัวอย่าง
Digital Transformation, Cloud Roadmap
Helpdesk, Monitoring, System Maintenance
9 / 10

ข้อความสรุป

ยุทธศาสตร์
การสร้างอนาคต

Strategic Movement

+
งานประจำ
ทำให้วันนี้แข็งแรง

Operational Excellence

องค์กรต้องมีทั้งสองด้านอย่างสมดุล

❌ มีแต่ยุทธศาสตร์ → ไปไม่ถึง เพราะระบบไม่รองรับ

❌ มีแต่งานประจำ → หยุดนิ่งและถูก Disrupt

✅ ต้องบริหารทั้งสองด้านอย่างสมดุลและเหมาะสม

✅ ตัวอย่างความเปลี่ยนแปลง ด้าน AI Hype Curve

10 / 10

งานประจำจะกลายเป็นงานยุทธศาสตร์ได้เมื่อ:

1 มองเห็นความเชื่อมโยงกับเป้าหมายใหญ่

งานบริการลูกค้าประจำวันถ้าทำอย่างเป็นระบบและสร้าง customer experience ที่ดีเด่น ก็กลายเป็นงานยุทธศาสตร์ที่สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

2 มีการปรับปรุงและนวัตกรรม

นำเทคโนโลยีหรือกระบวนการใหม่มาปรับปรุงงานประจำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก

3 สร้างมูลค่าเพิ่มที่วัดผลได้

ทำให้งานประจำช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ หรือสร้างความแตกต่างที่ชัดเจน

4 มีการวางแผนระยะยาว

ไม่ใช่แค่ทำไปวันต่อวัน แต่มีการวางแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างจริง

งานจัดการสต๊อกสินค้า (ประจำ) ระบบ Supply Chain ที่เป็นเลิศ (ยุทธศาสตร์)
งานตอบอีเมล (ประจำ) ระบบ CRM สร้างความสัมพันธ์ลูกค้าระยะยาว (ยุทธศาสตร์)
งานทำรายงาน (ประจำ) ระบบ Business Intelligence เพื่อตัดสินใจ (ยุทธศาสตร์)
11 / 11